วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

ตำนาน พญานาึค

ตำนาน พญานาค


พญานาคนั้นมีเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนามากมายทั้งในพุทธประวัติโดยตรง และตำนานต่างๆ อีกมาก ที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องของการที่นาคแปลงกายมาเป็นคนมาขอบวช และกลายมาเป็นพิธีบวชนาคในปัจจุบันนั่นเอง



















เรื่องมีอยู่ว่า พญานาคตนหนึ่งรู้สึกอึดอัด เอือมระอา เบื่อชีวิต ถึงกับรังเกียจชาติกำเนิดของตนทีเดียว จึงเกิดความคิดว่า จะทำอย่างไรหนอ จึงจะพ้นจากนาค กลับกลายเป็นมนุษย์ได้ เมื่อได้ทราบว่า พระสมณะของพระศากยบุตรเป็นผู้ประพฤติธรรม รักษาพรรมจรรย์อยู่อย่างสงบ มีศีล มีธรรม ถ้าหากได้บวชบ้าง น่าจะพ้นจากชาติกำเนิดได้ คิดดังนั้นแล้ว จึงแปลงกายเป็นชายหนุ่มเข้าไปหาพระภิกษุทั้งหลายเพื่อขอบวช และได้รับการบวช สมดังหวัง และได้อาศัยอยู่ในวิหารกับพระภิกษุรูปหนึ่ง ถึงเวลาเช้ามืด เหล่าพระภิกษุทั้งหลายก็ออกไปเดินจงกรมอยู่กลางแจ้ง แต่พญานาคขี้เกียจ จึงจำวัดอยู่ สภาพร่างกายก็กลับกลายเป็นนาค ขดตัว ยื่นไปทางหน้าต่าง ครั้นภิกษุ เดินจงกรมเสร็จแล้ว ก็กลับมายังวิหาร เมื่อผลักบานประตูเข้ามา เหลือบไปเห็นงูใหญ่ก็ตกใจ ร้องเอะอะโวยวายขึ้น ภิกษุทั้งหลายต่างวิ่งเข้ามาสอบถาม
พระรูปนั้นจึงชี้ให้ดูว่า “พวกท่านเห็นงูไหม โน่น..ขดตัวอยู่ที่หน้าต่าง”
ขณะนั้นพญานาคก็ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังเอะอะนั้น พอได้สติจึงรีบแปลงกายกลับเป็นภิกษุ บรรดาภิกษุทั้งหลายจึงถามว่า “นี่ ท่านเป็นใคร”
พระพญานาคจึงตอบว่า “ผมเป็นพญานาคครับ” และได้บอกถึงวัตถุประสงค์ที่อยากเป็นมนุษย์นี้
ภิกษุทั้งหลายจึงพากันไปกราบทูลต่อพระผู้มีพระภาค พระพุทธองค์รับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ และได้ประทานโอวาทแก่พระพญานาคว่า
“เจ้าเป็นพญานาค ย่อมจะไม่เจริญงอกงามในธรรมวินัยนี้เป็นธรรมดา ไปเถิดเจ้านาค จงไปรักษาอุโบสถศีล ในวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และ ๘ ค่ำ แห่งปักษ์นั่นแหละ ด้วยวิธีนี้ เจ้าจักพ้นจากกำเนิดนาค และจักกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน” พญานาคเมื่อได้ทราบดังนั้น ก็เป็นทุกข์เสียใจ น้ำตาไหลพราก สะอื้นไห้แล้วหลบหนีไปจากที่นั้น
พระพุทธองค์จึงตรัสกับภิกษุทั้งหลายที่ประชุมกันอยู่นั้นว่า “ภิกษุทั้งหลาย สภาพของนาค จะปรากฏด้วยเหตุสองประการคือ เวลาเสพเมถุนกับนางนาค ผู้มีชาติเสมอกัน และเวลานอนหลับอย่างไร้สติ ภิกษุทั้งหลาย... สัตว์เดรัจฉาน ภิกษุไม่ควรบวชให้ ที่บวชแล้วต้องให้สึกเสีย” ดังนั้นในการบวชปัจจุบันจึงมีการขานนาค พระอุปัชฌาย์ ท่านจะถามผู้ที่ขอบวชว่า “เธอเป็นมนุษย์หรือ” ด้วยเหตุนี้นั่นเอง








พระพุทธรูปนาคปรก จะสร้างตัวนาคต่างๆกันหลายแบบ มีเศียรต่างกันหลายๆเศียร









จากหนังสือเทวกำเนิด โดยพระยาสัจจาภิรมย์ ท่านว่าไว้ว่า นาคนี้ เรามักจะเรียกกันว่าพญานาค แต่ยังมีชื่อเรียกอย่างอื่นอีกมากเช่น ภุชงค์ วาสุกรี นาคี หรืออนันตนาค (ที่เอาไปทำหัวเรือ อนันตนาคราชนั่นไง) เราเข้าใจกันโดยทั่วไปว่านาคจะตัวยาวๆอย่างงู ในบาลีลิปิกรมว่า มีหน้าเป็นคน หางเป็นงู เป็นพวกกึ่งเทวดา มีเมืองที่อยู่เรียกว่า บาดาล ซึ่งเข้าใจกันว่าอยู่ใต้แผ่นดินเรานี่เอง ตามคัมภีร์วิษณุปุราณะ บอกว่ามีถึง 7 ชั้นแน่ะ ชั้นที่เป็นบาดาลจะอยู่ลึกสุดชั้นที่ 7 เป็นที่อยู่ของ วาสุกินาคราช



ลักษณะของนาคที่เด่นชัดอีกอย่างหนึ่งคือ มีหงอนอันงามเรียกว่างูหงอนเรามักจะเห็นรูปพญานาคมีหงอนสวยๆหลายชั้นตามวัดตามวา โดยเฉพาะทางภาคเหนือและอีสาน นอกจากเกี่ยวข้องทางพุทธศาสนาแล้วยังเกี่ยวกับทางฮินดูพราหมณ์อีกมากมายด้วย เช่นพญานาคทำตัวเป็นบัลลังก์ให้พระวิษณุบรรทมอยู่ในเกษียรสมุทร และที่งานหนักกว่านั้นก็จะต้องไปทำตัวแทนเชือกใหญ่พันภูเขา ให้เหล่าเทพและยักษ์จับหมุน ในการกวนทำน้ำอมฤตที่ยิ่งใหญ่ (ตอนนี้ก็ยังกวนกันอยู่เลย ไปดูที่สนามบินสุวรรณภูมิได้) งานที่เบาลงมาหน่อยก็ได้แก่เป็นสังวาลย์ของพระอิศวร และเป็นลูกศรของอินทรชิต







พระแม่มนสาเทวีเจ้า เป็นลูกของพระศิวะ เทพเจ้าของอินเดีย








นอกจากนี้ในเมืองไทยทางภาคอีสานนี่เอง ที่จังหวัดอุดรธานี ยังมีสถานที่หนึ่งที่มีความเชื่อว่า เป็นประตูสู่เมืองบาดาล คือที่วัดคำชะโนดที่เลื่องลือนั่นเอง เพราะมักมีเหตุการณ์แปลกๆที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นอยู่เสมอ ถ้ามีโอกาสจะไปเที่ยวดูซักครั้ง แล้วจะนำมาเล่าต่อให้ฟังครับ ตอนนี้ดูรูปวัดไปพลางๆก่อน ไปเจอในwebblogนึงพอดี


บริเวณวัดคำชะโนด







ทางเข้าวัดเขียนป้ายไว้เลยว่า วังนาคินทร์






ทางเดินเข้าสู่บริเวณวัด






ภายในมีต้นไม้แปลกๆอายุมากๆ









ข้ามโขงไปทางฝั่งลาว ก็มีความเชื่อและศรัทธาต่อตำนานพญานาคเช่นกัน บันใดลงท่าน้ำริมโขงก็สร้างพญานาคอย่างสวยงาม

ใครยังอ่านเรื่องพญานาค ไม่จุใจ ตามไปอ่านได้ที่
http://www.dmc.tv/pages/scoop/bangfai_payanaka3.html
มีเรื่องพญานาคอีกยาวเลยครับ


TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ 1200 กว่าเรื่องแล้ว

ส่วนท่านที่ชอบเพลง background ผมได้รวบรวมเพลงไพเราะ เพลงรัก romantic และเพลงซึ้งๆ ที่หาฟังได้ยากในสมัยนี้ ไว้หลายชุด สนใจ email ติดต่อมาได้ครับที่ nana_sara1000@ymail.com

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น